อาคารอิฐแดงเช่นนี้ เป็นที่นิยมในช่วงต้นยุคเมจิ (ปี 1868-1912) เมื่อญี่ปุ่นเปิดประเทศภายหลังจากช่วงเวลา 250 ปี แห่งการอยู่อย่างโดดเดี่ยวในยุคศักดินา ด้วยความพยายามที่จะไล่ตามให้ทันโลก ญี่ปุ่นจึงได้ตามหาผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติให้เข้ามาช่วยเหลือด้านอุตสาหกรรม การศึกษา การทหาร และการพัฒนาการค้าขาย โดยอิทธิพลของพวกเขาได้แผ่ไปถึงสถาปัตยกรรมอิฐแดงจากยุโรป แฟชั่นสไตล์ต่างชาติ โรงงาน และแม้แต่เบียร์ ซึ่งเมื่อ 100 ปีก่อน มีเบียร์ 4 ยี่ห้อหลักในประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ ได นิปปอน, คิริน, เทโคคุ และคาบุโตะ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด! คำว่า "คาบุโตะ" หมายถึงหมวกของซามูไร และยังเป็นชื่อเบียร์ชนะรางวัลเหรียญทองประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากงานปารีสเอ็กซ์โปปี 1900!

อาคารอิฐแดงนี้ เป็นบ้านของเบียร์คาบุโตะ! ซึ่งแต่เดิมได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1887 โดยโรงหมักเบียร์เก่าได้ขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้แห่งชาติ เนื่องจากเป็นอาคารอิฐแดงที่ใหญ่ที่สุดที่ยังคงหลงเหลือมาจากยุคเมจิ

อาคารห้าชั้นได้ผลิตเบียร์ยอดนิยมระดับประเทศจนกระทั่งเมื่อบริษัทปิดตัวลงในปี 1921 และตั้งแต่นั้นมา อาคารแห่งนี้ ได้ถูกใช้เป็นโรงงานแป้งข้าวโพด และแม้กระทั่งเป็นคลังสินค้า นอกจากนี้ บางส่วนของผนังอิฐยังปรากฏรูกระสุนที่ย้อนให้รำลึกถึงการโจมตีทางอากาศของเครื่องบินอเมริกัน P51 เมื่อปี 1945 โดยในช่วงสงคราม โรงงานผลิตของบริษัทเครื่องบินนาคะจิมะในเมืองฮานดะได้ใช้โรงงานเบียร์เก่านี้เพื่อเก็บชิ้นส่วนเครื่องบิน ซึ่งทำให้ที่นี่กลายเป็นเป้าหมายที่ถูกโจมตี

คืนชีวิตให้อิฐแดง

ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 อาคารแห่งนี้ ได้เข้ามาอยู่ในความดูแลของเมืองฮานดะ โดยได้มีการซ่อมแซมโรงงานประวัติศาสตร์ให้กลับสู่สภาพเดิม และนำเบียร์ยอดนิยมกลับมาพร้อมกับฉลากแบบเก่า อย่างไรก็ตาม เบียร์ไม่ได้ถูกผลิตจากโรงงานเก่าแห่งนี้แล้ว โดยผู้ผลิตเบียร์ท้องถิ่นรายอื่นยังคงผลิตเบียร์ต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีจำนวนจำกัดก็ตาม

โรงงานเดิมในปัจจุบันถูกใช้เป็นภัตตาคารและแผงขายของที่ระลึก ลองใช้เวลาเดินท่องไปในสถานที่และชมสถาปัตยกรรมและอิทธิพลของสไตล์วิคตอเรียนของโรงงงานเก่า

เบียร์คาบุโตะ มีจำหน่ายที่ภัตตาคารของโรงงานและภัตตาคารอื่นๆ โรงแรม และผับทั่วฮานดะ อย่าลืม สั่งเบียร์คาบุโตะให้ตัวเองเมื่อมาเยือนฮานดะ และยกแก้วเพื่อดื่มให้กับอาคารอิฐแดงแห่งฮานดะ