ไม่เฉพาะเพียงแค่เยี่ยมชม แต่ยังได้ลองสัมผัสศาสตร์แห่งงานหัตถศิลป์แห่งไอจิ!

หากท่านเป็นนักท่องเที่ยวที่ต้องการมากกว่าแค่การเที่ยวชมวัฒนธรรมท้องถิ่นแบบผิวเผินหรือต้องการจะสัมผัสประสบการณ์ตรงด้วยตัวของท่านและลองพูดคุยกับชาวบ้านท้องถิ่น ก็ไม่มีจุดหมายไหนเหมาะไปมากกว่าที่นี่อีกแล้ว
เมืองนาโกย่ารวมถึงทั้งหมดของจังหวัดไอจิ มักถูกขนานนามว่าเป็น “จุดศูนย์รวมของงานหัตถศิลป์” หรือ “เมืองหลวงแห่งอุตสาหกรรมญี่ปุ่น” โดยแท้ที่จริงแล้ว คุณภาพของงานหัตถศิลป์เป็นคำที่ผู้คนมากมายในไอจิ นับตั้งแต่ช่างศิลป์อิสระและธุรกิจเล็กๆ ที่ดำเนินภายในครอบครัว ไปจนถึงบริษัทระดับโลก ต่างให้ความสำคัญเป็นอย่างสูง

นับตั้งแต่ปี 1977 ไอจิเป็นอันดับหนึ่งในด้านปริมาณการส่งออกสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่นประจำปี เป็นเวลากว่า 40 ปี โดยยานยนต์และอากาศยานเป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ ที่แสดงให้เห็นถึงอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงของที่นี่ในปัจจุบัน แต่หากกล่าวถึงประวัติความเป็นมาอันรุ่งเรืองของงานหัตถศิลป์แล้วล่ะก็ คงต้องย้อนเวลากลับไปกว่า 400 ปี ผ่านเครื่องปั้นดินเผา สิ่งทอ รวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตดั้งเดิมชนิดอื่นๆ
สถานที่ในไอจิที่จะแนะนำต่อไปนี้ เป็นเพียงสถานที่บางส่วนที่ท่านสามารถเห็นและสัมผัสประสบการณ์ศิลปะแห่งอุตสาหกรรมทั้งแบบล้ำสมัยและดั้งเดิม

ในฐานะแฟนพันธุ์แท้ภาชนะบนโต๊ะอาหารโบราณ ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ฉันชื่นชอบเป็นการส่วนตัวและเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ฉันภาคภูมิใจที่สุดในนาโกย่าบ้านเกิดของฉัน โนริทาเกะเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตเซรามิกชั้นนำด้วยประวัติยาวนานกว่า 100 ปี โนริทาเกะการ์เด้นก็ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ที่แต่เดิมเคยเป็นโรงงานของบริษัทมาก่อน อาคารอิฐแดงที่มีเสน่ห์และสวนโดยรอบที่สวยงามสร้างบรรยากาศผ่อนคลายสบายๆ และชวนนึกถึงอดีตแก่ทั้งผู้ที่มาเยี่ยมชมและชาวบ้านท้องถิ่น

ท่านจะต้องทึ่งและประทับใจไปกับคอลเลกชันเครื่องโนริทาเกะแบบตะวันตกอันหรูหราตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1900 ปล่อยกายและใจของท่านไปกับบรรยากาศความงดงามของพิพิธภัณฑ์ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังคราฟต์เซ็นเตอร์เพื่อชมกระบวนการผลิตเครื่องเคลือบ และที่ยอดเยี่ยมที่สุดของคราฟต์เซ็นเตอร์คือการที่ท่านสามารถลองทำเครื่องเคลือบด้วยตัวเองได้!

นอกจากนี้ เวิร์คช็อปลงสีแบบจีนของที่นี่ก็เป็นประสบการณ์น่าจดจำของทั้งเด็กและผู้ใหญ่อย่างแท้จริง โดยท่านสามารถลงสีเซรามิกที่ท่านเลือก เช่น จานหรือแก้ว ด้วยสีเครื่องเคลือบที่นำมาละลาย ฉันค่อนข้างรู้สึกถึงความยุ่งเหยิงและซุ่มซ่ามของตัวเองขณะวาดลายและลงสี แต่ฉันก็ยังสามารถลงสีรูปภาพอย่างสวยงามลงบนจานด้วยการลงสีลงบนแบบร่างจนสำเร็จ ตกแต่งจานหรือแก้วที่มีเอกลักษณ์เฉพาะเพียงหนึ่งเดียวเพื่อเป็นของที่ระลึกสำหรับโต๊ะอาหารที่บ้านของท่าน!

โนริทาเกะการ์เด้น (Noritake Garden)
[ที่อยู่] 〒451-8501
3-1-36, Noritake Shinmachi, Nishi-ward, Nagoya-City, Aichi
[เวลาให้บริการ] ศูนย์หัตถกรรม: 10.00-17.00 น. (เวลาเปิดอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับความสะดวก)
[ปิดทำการ] วันจันทร์ (หากวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการ
หรือวันหยุดชดเชย จะหยุดวันถัดไป)
ช่วงวันสิ้นปีและปีใหม่
ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ คลิกที่นี่ >>

พิพิธภัณฑ์ผ้ามัดย้อมอะริมัตสึ นารุมิตั้งอยู่ที่ย่านเมืองเก่าของอะริมัตสึท่ามกลางเส้นทางเก่าแก่ที่เรียงรายด้วยร้านค้าดั้งเดิมที่ถูกรักษาไว้เป็นอย่างดี เป็นระยะเวลากว่า 400 ปีที่อะริมัตสึโด่งดังด้วยเทคนิคการมัดย้อมคุณภาพสูงที่เรียกว่า “อะริมัตสึ นารุมิ ชิโบริ” และในปัจจุบัน เมืองนี้ก็ยังคงเป็นศูนย์กลางของการย้อมสิ่งทอของประเทศ

ความหมายของคำว่า “ชิโบริ” ตามตัวอักษรหมายถึง “บิด” หรือ “บีบ” ซึ่งนี่คือวิธีการสร้างลวดลายลงบนผืนผ้า ด้วยการพับ บิด เย็บ และมัด ในบริเวณที่ท่านไม่ต้องการให้สีย้อมติด ว่ากันว่าลวดลายของชิโบริมีมากกว่า 100 แบบ และที่พิพิธภัณฑ์ผ้ามัดย้อมอะริมัตสึ นารุมิก็แสดงให้เห็นถึงรูปแบบและเทคนิคอันแตกต่างนั้น นอกจากนี้ ยังมีการสาธิตโดยช่างหัตถศิลป์ท้องถิ่นที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ที่ดึงดูดให้ท่านมาชม และท่านสามารถจองล่วงหน้าเพื่อทดลองทำผ้าชิโบริมัดย้อมด้วยตัวเอง ลองย้อมผ้าเช็ดหน้า เสื้อยืด ผ้ากันเปื้อน หรือผ้าปูโต๊ะ และสัมผัสส่วนหนึ่งของเทคนิคดั้งเดิม

ส่วนที่สุดยอดที่สุดของเวิร์คช็อปคือการตัดเส้นด้ายตอนท้ายสุดเพื่อดูลวดลาย...ที่จะออกมาแตกต่างกันเสมอและมีเอกลักษณ์เพียงหนึ่งเดียว! คำแนะนำของฉันคือจงมุ่งมั่นและสร้างสรรค์ จริงอยู่ที่ท่านจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากและท่านอาจรู้สึกเมื่อยล้าดวงตาและปวดไหล่เมื่อสิ้นสุดกิจกรรม แต่ยิ่งท่านออกแรงบิดและมัดผ้ามากเท่าไร ลายที่ออกมาก็จะสวยเท่านั้น ทั้งนี้ช่างหัตถศิลป์มากประสบการณ์ต่างยินดีที่จะอธิบายเทคนิคเพื่อให้ท่านสร้างลวดลายอันสวยงามสำหรับเป็นของที่ระลึกกลับบ้านอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์ผ้ามัดย้อมอะริมัตสึ นารุมิ (Arimatsu-Narumi Tie-Dyeing Museum)
[ที่อยู่] 〒458-0924
3008 อะริมัตสึ เขตมิโดริ เมืองนาโกย่า
[เวลาให้บริการ] 9:30 ถึง 17:00 น. (การสาธิตมีจนถึง 16:30 น.)
[ปิดทำการ] ช่วงสิ้นปีและปีใหม่, วันหยุดอื่นที่ไม่ได้กำหนด

หมู่บ้านเวอร์มิคิวล่าร์กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ที่โดดเด่นทันสมัยและหลายคนอยากมาเยี่ยมเยือนหากมาไอจิ นับตั้งแต่เปิดให้บริการในปี 2019 เมื่อครั้งที่ผู้ผลิตเครื่องหล่อที่เชี่ยวชาญในการผลิตเครื่องทอผ้าแบบด็อบบี้ "ไอจิ ด๊อบบี้" สร้างความตื่นเต้นด้วยการเปิดตัว “เวอร์มิคิวล่าร์” ผลิตภัณฑ์เครื่องครัวหม้อเหล็กและหม้อเคลือบหลากหลายรุ่นในปี 2010 สำหรับการปรุงอาหารโดยไม่ใช้น้ำ หรือเรียกว่า "มุซุย" ซึ่งเป็นคำในภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า "ปราศจากน้ำ"

หมู่บ้านเวอร์มิคิวล่าร์เป็นคอมเพล็กซ์สำหรับให้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ที่เพิ่งเปิดใหม่ริมแม่น้ำนาคะกาวะ ประกอบไปด้วย แฟล็กชิพสโตร์ ร้านอาหาร และร้านคาเฟ่เบเกอรี่ ที่เสิร์ฟอาหารอร่อยๆ ที่ทำโดยใช้เครื่องครัวเวอร์มิคิวล่าร์ นอกจากนี้ ชั้นเรียนทำอาหารที่จัดเป็นประจำในสตูดิโอเป็นอีกเหตุผลที่ดึงดูดให้ที่นี่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ครั้งหนึ่งฉันเคยมีโอกาสเข้าร่วมชั้นเรียนขั้นพื้นฐานเพื่อทำ “มุซุย” ซึ่งเป็นแกงกะหรี่แบบ “ปราศจากน้ำ” และไม่ได้เป็นการกล่าวเกินจริงเลยที่จะบอกว่านี่เป็นประสบการณ์ที่ฉันถึงกับต้องอ้าปากค้าง เพราะมันเป็นการปรุงอาหารโดยไม่ใช่น้ำแม้แต่หยดเดียวแต่กลับใช้เพียงน้ำจากผักตามธรรมชาติเท่านั้น! ฉันไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนถนัดทำอาหารนัก แต่ด้วยความช่วยเหลือด้านการทำอาหารอันแสนวิเศษของพวกเขา ในวันนั้น ฉันถึงกับคิดว่าจะสามารถเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองได้... อร่อยขนาดนั้นเลยทีเดียว!
เข้าสู่ด้านจริงจังกันบ้าง แท้จริงแล้วแกงกะหรี่แบบปราศจากน้ำเป็นหนึ่งในเมนูเด็ดของพวกเขาในร้านอาหาร และที่ฉันชอบเป็นพิเศษคือ ขนมปังแกงกะหรี่ “มุซุย” เนื้อวัว ที่เสิร์ฟที่คาเฟ่เบเกอรี่ โดยที่นี่มีขนมปังและขนมอบมากมายหลายชนิดที่ทั้งหมดถูกอบด้วยภาชนะของเวอร์มิคิวล่าร์ และถ้าท่านต้องการรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร “เดอะ ฟาวดรี” ก็อย่าลืมจองโต๊ะล่วงหน้าและเข้ามาสนุกกับศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหนผ่านประสบการณ์การรับประทานอาหารที่นี่

หมู่บ้านเวอร์มิคิวล่าร์ (Vermicular Village)
[ที่อยู่] 〒454-0805
เลียบฝั่งคลอง 4 ฟุนาโตะโจ นาคากาวะคุ เมืองนาโกย่า (ร้านอาหาร)
เลียบฝั่งคลอง 2 ฟุนาโตะโจ นาคากาวะคุ เมืองนาโกย่า (สตูดิโอ)
[เวลาให้บริการ] แตกต่างกันในแต่ละสถานที่

พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้าถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่เดิมของโตโยต้ากรุ๊ป เพื่อเก็บรักษาและใช้ประโยชน์อาคารโรงงานอิฐแดงที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยไทโชในฐานะมรดกทางอุตสาหกรรมที่ทรงคุณค่า พิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติศาสตร์การเปลี่ยนผ่านทางอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีของโตโยต้ากรุ๊ป ผ่านเครื่องทอผ้าซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่ช่วยสร้างญี่ปุ่นยุคใหม่ จนมาถึงการพัฒนายานยนต์ของพวกเขาในปัจจุบัน
สิ่งที่ทำให้นิทรรศการของที่นี่โดดเด่นคือ ความสมจริงของเครื่องจักรที่กำลังทำงานอยู่ ซึ่งเครื่องจักรเหล่านี้เคยถูกใช้ผลิตสิ่งทอและยานยนต์จริงๆ รวมถึงการสาธิตสดโดยเหล่าเจ้าหน้าที่ ท่านสามารถมาดู ตกตะลึง พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ที่นี่

ด้วยสิ่งเหล่านี้ พิพิธภัณฑ์จึงมุ่งถ่ายทอดความสำคัญของ "จิตวิญญาณแห่งการใฝ่เรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์" และ "การประดิษฐ์" พิพิธภัณฑ์ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักคือ อาคารเครื่องจักรสิ่งทอและอาคารรถยนต์ โดยท่านอาจจะต้องใช้เวลาราวหนึ่งชั่วโมงครึ่งเพื่อชมนิทรรศการหลักนี้
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีห้องสมุด ร้านค้าของพิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร และคาเฟ่ของพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้ท่านสนุกได้ทั้งวันกับทั้งครอบครัว

พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า (Toyota Commemorative Museum of Industry and Technology)
[ที่อยู่] 〒451-0051
　　　 4-1-35, Noritake Shinmachi, Nishi-ward, Nagoya-City, Aichi
[เวลาให้บริการ] 9.30-17.00 น. (เปิดให้เข้าถึง 16.30 น.)
[ปิดทำการ] วันจันทร์ (หากวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการ
จะหยุดวันถัดไป),
ช่วงวันสิ้นปีและปีใหม่
ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ คลิกที่นี่ >>

หากท่านเป็นแฟนพันธุ์แท้มัทฉะ (ชาเขียว) การมาเยือนเมืองนิชิโอะทางตอนใต้ของไอจิเป็นสิ่งที่ต้องห้ามพลาด นิชิโอะเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้วยการผลิตมัทฉะคุณภาพสูงและประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ทศวรรษ 1200 ส่วนซาอิโจเอ็น “อาอิยะ” เป็นร้านมัทฉะที่มีประวัติกว่า 100 ปี ที่ท่านสามารถเลือกซื้อมัทฉะ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับพิธีชงชา และขนมจากมัทฉะ โดยมีผงมัทฉะออร์แกนิกที่แนะนำสำหรับผู้ที่ชื่นชอบมัทฉะ และยังมีมัทฉะถุงและมัทฉะลาเต้ผงที่ง่ายต่อการดื่ม นอกจากนี้ บิสกิตเนยรสมัทฉะ มัทฉะบามคูเฮน และช็อกโกแลตกรุบกรอบก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและเหมาะเป็นสำหรับเป็นของฝากอย่างยิ่ง

ภายในพิพิธภัณฑ์มัทฉะ “ซาอิโจเอ็น วาคุ วาคุ (抹茶ミュージアム西条園和く和く)” ท่านสามารถเรียนรู้ขั้นตอนทั้งหมดของการผลิตมัทฉะ และไฮไลท์ของทัวร์อยู่ที่ท่านสามารถปรุงใบชาและบดใบชาที่ปรุงให้เป็นผงมัทฉะด้วยเครื่องบดจากหินแบบใช้มืออันเป็นวิธีดั้งเดิม เครื่องบดหินนี้มีน้ำหนักมากและต้องใช้ความพยายามอย่างสูง แต่เสียงของเครื่องบดกลับสร้างความผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด

ท่านเคยลองลิ้มรสมัทฉะบดสดใหม่ไหม? (จริงๆ คำถามนี้ไม่ต้องการคำตอบเพราะฉันรู้ว่าพวกท่านส่วนใหญ่ไม่เคย!) ที่นี่ ท่านสามารถลิ้มรสมัทฉะที่ปรุงและบดในแบบฉบับของท่านพร้อมกับขนมมัทฉะแสนอร่อยในห้องชงชา ฉันเคยเข้าร่วมพิธีชงชาหลายครั้งในอดีตทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ แต่นี่เป็นโอกาสที่หากได้ยากจริงๆ ที่ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์ทั้งหมด นับตั้งแต่ปลูกต้นชาและเลือกใบชาที่เหมาะสมจนถึงลิ้มรสชาจนถึงหยดสุดท้าย ท่ามกลางความเงียบสงบภายในห้องชงชา

ท่ามกลางความเงียบสงบภายในห้องชงชา ท่านจะพบว่าวัฒนธรรมชาดั้งเดิมของญี่ปุ่นไม่ได้มีเพียงแค่การดื่มชาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้เวลาเพื่อใช้เวลาครุ่นคิดถึงตัวตนและมองหาความสงบภายในจิตใจด้วย

ซาอิโจเอ็น “อาอิยะ” (Saijoen “AIYA”)
[ที่อยู่] 〒445-0894
15 โยโกมาจิยาชิกิ คามิมาจิ เมืองนิชิโอะ
[เวลาให้บริการ] 10:00/13:00/15:00 น. (เวลาเริ่ม)
[ปิดทำการ] ช่วงสิ้นปีและปีใหม่, วันพฤหัสบดีแรกของเดือน

“นาโอริ” อาจเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่มีเอกลักษณ์ที่สุดซึ่งดึงดูดความสนใจมากมายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ และในฐานะทูตอย่างเป็นทางการ ฉันมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่จะแนะนำให้ท่านรู้จักกิจกรรมนี้ เมืองโทอีซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ อันเงียบสงบที่มีประชากรราว 3,000 คน ตั้งอยู่ในหุบเขาทางตะวันออกเฉียงเหนือของไอจิและสามารถเดินทางมาได้โดยรถไฟจากเมืองโทโยฮาชิ พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองถูกปกคลุมด้วยป่าหนาทึบ อย่างไรก็ตาม เมืองนี้เป็นเพียงเมืองเดียวในญี่ปุ่นที่มีเหมืองเซริไซต์

ไม่คุ้นกับคำว่า “เซริไซต์” ใช่ไหมล่ะ? ฉันจะอธิบายคร่าวๆ ว่าเซริไซต์เป็นหนึ่งในส่วนประกอบหลักของเครื่องสำอาง เช่น รองพื้นและบลัชออน ซึ่งเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกใช้กันอย่างแพร่หลายรวมทั้งตัวฉันเองด้วย แร่เซริไซต์จากโทอีมีชื่อเสียงด้วยคุณภาพที่สูงและเนื้อสัมผัสที่ละเอียด และครองสัดส่วนถึง 80% ของตลาดในประเทศญี่ปุ่นและ 50% ของตลาดโลก (!!!)

ที่นาโอริ ท่านสามารถทำรองพื้นแฮนด์เมดและเครื่องสำอางอื่นๆ เช่น ลิปเนื้อครีมและน้ำสกัดจากดอกไม้ จากวัตถุดิบธรรมชาติในท้องถิ่นด้วยตัวท่านเอง นอกจากนี้ สถานที่สำหรับทำเวิร์คช็อปที่อยู่ในห้องเรียนอันสวยงามที่แต่เดิมเคยเป็นโรงเรียนก็เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะแม้การผสมวัตถุดิบต่างๆ ในถ้วยบดและการเติมผงสีจะต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่ท่านจะกลับรู้สึกสนุกที่ได้นึกย้อนไปถึงความทรงจำในการทดลองเล็กๆ ที่เคยทำในวิชาเคมีชั้นมัธยม

แป้งรองพื้นของโทอีจะทิ้งไว้ซึ่งความนุ่มนวลและแวววาวบนผิวของท่าน! ฉันจึงขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ท่านลองเข้าร่วมทัวร์เหมืองเซริไซต์และเยี่ยมชมการทำเหมืองซึ่งนับเป็นโอกาสอันหาได้ยากที่ท่านจะได้เห็นว่าผลิตภัณฑ์เสริมความงามของท่านมีจุดกำเนิดมาจากไหน และการเดินลอดอุโมงค์ในเหมืองก็เป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น รวมถึงสร้างความรู้สึกเรียบง่ายอย่างน่าประหลาดว่าเราเป็นเพียงแค่ส่วนเล็กจิ๋วในธรรมชาติอันกว้างใหญ่ในเวลาเดียวกัน

สนุกไปกับทัวร์ สนุกไปกับเวิร์คช็อป และสนุกไปกับการพูดคุยกับชาวบ้านท้องถิ่น และเช่นเดียวกับฉัน ท่านจะต้องตกหลุมรักเมืองนี้อย่างแน่นอน

นาโอริ (Naori)
[ที่อยู่] 〒449-0206
13-7 โนคิยามะ ชิโมดะ เมืองโทอี คิตะชิทาระกุน
[เวลาให้บริการ] 10:30 ถึง 12:00 น./13:30 ถึง 15:30 น.
[ปิดทำการ] วันพุธ พฤหัสบดี และวันหยุดนักขัตฤกษ์

　
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่ท่านสามารถสัมผัสเมื่อมาเยือนจังหวัดไอจิ ลองนึกถึงสิ่งที่ท่านสนใจในภูมิภาคนี้ และมั่นใจได้เลยว่าท่านจะสามารถค้นพบกิจกรรมที่สามารถเข้าร่วมได้อย่างแน่นอน!

ผู้เขียน
ไอรีน เดวาลด์

ไอรีนเป็นดีเจวิทยุ พรีเซ็นเตอร์ทางโทรทัศน์ ผู้บรรยาย และพิธีกร จากจังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น เธอจบการศึกษาปริญญาตรีด้านศิลปการละคร จากรอยัลฮอลโลเวย์ มหาวิทยาลัยลอนดอน ในปี 2005 ตลอดเวลาที่ศึกษาในต่างประเทศ เธอได้ค้นพบว่าตัวเองหลงใหลในเทศกาลและศิลปะการแสดงของญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ทำให้ในท้ายที่สุด เธอกลับมายังไอจิและอุทิศตนเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณี และเสน่ห์ที่ถูกซ่อนไว้

* คอลัมน์นี้ถูกแปลจากเนื้อหาภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย