นาโกย่า เมืองที่คุณจะสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจของตระกูลโอวาริโทคุกาวะ | คอลัมน์ | Experiences in Aichi
โดยชินคันเซ็น (รถไฟหัวกระสุน)

  1. Home /
  2. คอลัมน์ /
  3. นาโกย่า เมืองที่คุณจะสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจของตระกูลโอวาริโทคุกาวะ

นาโกย่า เมืองที่คุณจะสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจของตระกูลโอวาริโทคุกาวะ

นาโกย่า

“ตระกูลโอวาริโทคุกาวะ” ผู้นำสามสายตระกูลหลัก

โชกุนโทคุกาวะ อิเอะยะสุ ผู้เป็นจุดเริ่มต้นของรัฐบาลบาคุฟุในยุคเอโดะ มีอำนาจปกครองมากที่สุดในตระกูลโทคุกาวะ และเพื่อให้สามารถสืบทอดอำนาจต่อกันได้อย่างราบรื่นต่อเนื่องยาวนาน เขาได้แต่งตั้งบุตรชาย 3 คน ให้เป็น “สามสายตระกูลหลัก” (ตระกูลมิโตะ ตระกูลคี ตระกูลโอวาริ) ซึ่งเป็นตระกูลไดเมียวที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นทายาทที่สามารถสืบทอดอำนาจได้ โดยทั้งสามสายตระกูลนั้นเป็นตัวแทนของ “ตระกูลโอวาริโทคุกาวะ”
โยชินาโอะ บุตรชายคนที่ 9 ของโทคุกาวะ อิเอะยะสุ เป็นผู้ตั้งแคว้นโอวาริและปกครองโอวาริ (ทางตะวันตกของจังหวัดในปัจจุบัน) และประทับอยู่ที่ปราสาทนาโกย่า ในขณะนั้น อุตสาหกรรมการผลิตมากมายได้รับการส่งเสริมสนับสนุนตามนโยบายของรัฐ และส่งผลสืบเนื่องต่อมายังอุตสาหกรรมการผลิตและวัฒนธรรมของนาโกย่าในปัจจุบัน

บรรดาท่านชายในตระกูลโอวาริโทคุกาวะ

เหล่าท่านชายในโอวาริที่ว่านั้นเป็นคนอย่างไรกันหรือ เราขอแนะนำโฉมหน้าที่แท้จริงของบรรดาท่านชายผู้มีความเป็นตัวของตัวเองและได้รักษาความเจริญรุ่งเรืองของตระกูลโอวาริโทคุกาวะเอาไว้สักเล็กน้อย

โยชินาโอะ ผู้ครองแคว้นรุ่นแรก เก่งกาจทั้งบุ๋นบู๊ รักภรรยาเป็นที่สุด

โยชินาโอะ บุรุษที่เป็นที่รู้จักเนื่องจากนิสัยมุ่งมั่นของเขาเป็นคนที่รักการเรียนรู้ทั้งวิชาความรู้และศิลปะการฟันดาบ นอกจากนี้ยังเป็นที่เล่าขานกันด้วยว่าเขาเป็นคนที่รักภรรยามาก โดยที่ “บานประตูทสึงิโนะมะ” ของ “ห้องรับรองส่วนตัว” ในพระราชวังฮมมารุได้รับการแต่งแต้มไปด้วยภาพวาดของวัดคิมิอิและศาลเจ้าชิโมะกะมะซึ่งเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงของเมืองวากายะมะ บ้านเกิดของฮารุซะเมะ (ภรรยาของโยชินาโอะ) และบรรยากาศความคึกคักของเมืองรอบปราสาท กล่าวกันว่าภาพวาดเหล่านี้วาดขึ้นเพื่อปลอบประโลมจิตใจของฮารุซะเมะ
นอกจากนี้ นักดาบอย่างโยชินาโอะยังได้เชิญมิยาโมโตะ มุซาชิ นักดาบสองมือผู้มีชื่อเสียงมาที่ปราสาทนาโกย่าและเปิดการประลองฉันท์มิตรที่สวนนิโนะมารุ ท่านโยชินาโอะผู้ชื่นชมในพลังความแข็งแกร่งอันล้นเหลือของมุซาชิอย่างลึกซึ้งได้ตั้งสำนักที่ชื่อว่ามุซาชิขึ้น ที่สำนักแห่งนี้มีซามุไรของปราสาทนาโกย่ามาเข้าร่วมกว่า 3,000 คนและเปิดเรื่อยมาจนถึงยุคเมจิ

เนะฮารุ ผู้ปกครองแคว้นรุ่นที่เจ็ด จุดเริ่มต้นที่ทำให้ชาวนาโกย่าชื่นชอบสีสันฉูดฉาด!?

ผู้ที่เป็นที่รู้จักในฐานะท่านชายอาวองการ์ดก็คือมุเนะฮารุ ผู้ปกครองแคว้นรุ่นที่ 7 แม้ว่าท่านจะเป็นที่โด่งดังในภาพลักษณ์ขี่วัวสีขาว ถือไปป์ยาว สวมเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดเดินตระเวนไปทั่วเมือง แต่ท่านก็ทำหน้าที่บริหารและปกครองแคว้นเป็นอย่างดี มุเนะฮารุปกครองแคว้นด้วยความรัก เขาจึงได้ทำสัญญาประชาคมและใช้นโยบายผ่อนคลายกฎระเบียบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับนโยบายการปกครองแบบกดขี่อย่างสุดโต่งที่ได้ดำเนินการโดยโชกุนโยชิมุเนะ ผู้ปกครองแคว้นรุ่นที่แปด
การปกครองของมุเนะฮารุที่ให้ประชาชนมีอิสระในการใช้ชีวิต เช่น ให้มีการจัดแสดงมหรสพชิไบมากขึ้น อนุญาตให้สตรีและเด็กสามารถออกจากบ้านตอนกลางคืนได้ และยกเลิกโทษประหารชีวิต เป็นต้นนั้น ครองใจประชาชนและประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก ทำให้เมืองนาโกย่ากลายเป็นเมืองที่โด่งดังเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น มีนักแสดงคาบุกิ พ่อค้า และนางโลมจากทั่วประเทศมารวมตัวกัน และได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “นาโกย่า เมืองแห่งศิลปะ”

โยชิจิกะ หัวหน้าตระกูลรุ่นที่สิบเก้า ผู้ถูกขนานนามว่าเป็น “ท่านชายผู้จับเสือ”

โยชิจิกะ ผู้ซึ่งเป็นทั้งนักวิชาการ นักการเมือง และนักธุรกิจได้กำราบเสือที่หมู่เกาะมาเลย์ในช่วงก่อนสงคราม จึงทำให้เขาโด่งดังในฐานะ “ท่านชายผู้จับเสือ” เขายังเป็นบุคคลที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ศิลปะโทคุกาวะและห้องสมุดโฮสะเพื่อเก็บรักษาผลงานศิลปะจำนวนมากของตระกูลโอวาริโทคุกาวะ การที่เราได้มีโอกาสชื่นชมของล้ำค่าที่มีอายุกว่า 400 ปีก็เป็นเพราะความพยายามอันยิ่งยวดของชายผู้นี้

เที่ยวชมสถานที่ที่ทำให้ระลึกถึงความยิ่งใหญ่ของตระกูลโอวาริโทคุกาวะ

ปราสาทนาโกย่า พระราชวังฮมมารุ ปราสาทที่หรูหราที่สุดในบรรดาปราสาทสมัยใหม่

名古屋城

ปราสาทนาโกย่า ปราสาทที่ตระกูลโอวาริโทคุกาวะประทับอาศัยอยู่เป็นปราสาทที่โทคุกาวะ อิเอะยะสุ ผู้ริเริ่มรัฐบาลบาคุฟุในสมัยเอโดะสร้างขึ้นเมื่อปี 1610 เพื่อป้องกันโทไคโดจากฝ่ายโทโยโทมิที่ยังคงรุกรานมาอยู่ อิเอะยะสุแต่งตั้งให้โยชินาโอะ บุตรของเขาเป็นผู้ปกครองแคว้นคนแรกและให้ไปออกรบในศึกโอซาก้า ฤดูหนาว ปี 1614 และศึกโอซาก้า ฤดูร้อน ปี 1615 ซึ่งทำให้การรบพุ่งระหว่างโทโยโทมิและอิเอะยะสุดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุด และตระกูลโอวาริโทคุกาวะภายใต้การปกครองของโยชินาโอะกลายเป็นสายตระกูลที่สำคัญหนึ่งในสามและเจริญรุ่งเรืองเรื่อยมาถึง 260 ปี

名古屋城

กล่าวกันว่าปราสาทนาโกย่าในเวลานั้นสวยงามยอดเยี่ยมจนได้รับการขนานนามว่าเป็นปราสาทสมัยใหม่ที่งดงามที่สุด หอคอยปราสาทห้าชั้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์นั้น ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้สนฮิโนกิจำนวนมากและประดับด้วยปลาคาร์ปหัวสิงห์จากทองคำแท้บริสุทธิ์ 80% ที่น่าภาคภูมิใจ นักท่องเที่ยวที่กำลังเดินเที่ยวในเมืองและมองขึ้นมาเห็นปราสาทนาโกย่าที่เปล่งประกายจะต้องอึ้งจนตาลุกวาวไปกับความสุดยอดของอำนาจและความร่ำรวยของโทคุกาวะอย่างแน่นอน

ปราสาทนาโกย่าซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติชาติในปี 1930 ถูกบูรณะขึ้นใหม่โดยใช้โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กหลังจากที่เกิดเพลิงไหม้ขึ้นจากการโจมตีทางอากาศ และเป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของประเทศแบบพิเศษในฐานะที่เป็นเป็นปราสาทที่ถ่ายทอดภาพของญี่ปุ่นในอดีต
พระราชวังฮมมารุที่ถูกเพลิงไหม้ไปในเวลาเดียวกันก็ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่เช่นกัน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2009 หลังจากใช้เวลาไปกว่า 10 ปีในการกู้คืนและซ่อมแซมแผนที่สำรวจในยุคสมัยนั้นและภาพถ่ายเก่าต่างๆ อย่างจริงจัง ทำให้ภาพความยิ่งใหญ่เมื่อ 400 ปีก่อนกลับมาคืนชีพอีกครั้งในยุคปัจจุบัน และทำให้พระราชวังฮมมารุซึ่งอดีตเคยเป็นสถานที่พิเศษที่มีแต่คนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าไปได้ กลายเป็นสถานที่ที่หากได้ลองก้าวเท้าเข้าไปแล้ว ก็คงจะตื่นตะลึงไปกับสภาพความเป็นอยู่อันสูงส่งและรสนิยมทางศิลปะของผู้สูงศักดิ์ในอดีตอย่างแน่นอน

  • 本丸御殿
  • 本丸御殿
  • 本丸御殿
  • 本丸御殿

พิพิธภัณฑ์ศิลปะโทคุกาวะ สถานที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมของไดเมียวของจริง

徳川美術館

พิพิธภัณฑ์ศิลปะโทคุกาวะสร้างขึ้นบนพื้นที่ที่เคยเป็นสถานที่หลบภัยของโทคุกาวะ มิตสึโทโมะ เมื่อสมัยเป็นผู้ปกครองตระกูลโอวาริโทคุกาวะรุ่นที่สอง
สิ่งที่จัดเก็บไว้ที่นี่นอกจากจะมีของรักของหวงของอิเอะยะสุซึ่งเป็นมรดกที่ได้แบ่งให้ทายาทในตระกูลโอวาริโทคุกาวะแล้ว ก็ยังมีของใช้ของไดเมียวที่หาดูได้ยากหลายชิ้น ซึ่งได้รวบรวมมาจากของรักของหวงของเจ้าของในอดีตทั่วประเทศ ทั้งการจัดแสดงดาบ อุปกรณ์ที่ใช้ในงานแต่งงาน อุปกรณ์สำหรับพิธีชงชา ผลงานศิลปะในอดีต หน้ากากละครโน เครื่องแต่งกาย เครื่องปั้นดินเผา หนังสือ เครื่องเรือน และของใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ จัดแสดงอยู่

ที่นี่ไม่ได้เพียงแต่นำผลงานศิลปะมาวางตั้งเรียงแบบง่ายๆ เท่านั้น แต่ยังทำการบูรณะห้องประกอบพิธีชงชาและห้องโถงที่เคยตั้งอยู่ที่ในอาคารพระราชวังนิโนะมารุในปราสาทนาโกย่าและเวทีละครโน ทำให้ได้ผู้เยี่ยมชมได้ชื่นชมสิ่งของในบรรยากาศเสมือนขณะไดเมียวใช้สิ่งของเหล่านั้นจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังนำม้วนภาพเรื่อง “เก็นจิ โมโนกาตาริ” 9 ม้วน ซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติชาติ รวมถึงสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ 59 ชิ้น และผลงานศิลปะอันล้ำค่า 46 ชิ้น ออกมาจัดแสดงหมุนเวียนสับเปลี่ยนไปพร้อมกับจัดนิทรรศการพิเศษ จึงทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รับความสนใจอยู่เสมอ

  • 徳川美術館
  • 徳川美術館
  • 徳川美術館
  • 徳川美術館

“สวนโทคุกาวะ” สวนของไดเมียวที่เคร่งขรึมซึ่งได้รับการออกแบบอย่างละเอียดละออ

徳川園

“สวนโทคุกาวะ” ซึ่งอยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะ มีทางเข้าเป็น “ประตูสีดำ (คุโระมง)” ซึ่งเคยอยู่ที่คฤหาสน์ของตระกูลโอวาริโทคุกาวะ
ในสวนอันกว้างใหญ่แห่งนี้ ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ถูกสร้างให้เปลี่ยนแปลงรูปแบบไปเรื่อยๆ เช่น “น้ำตกริวมง” “ทะเลสาบริวเซน” “สะพานโคะเซน” เป็นต้น ผู้มาเยี่ยมชมจะได้ชื่นชมธรรมชาติหลากหลายอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามพืชพรรณไม้สี่ฤดู นี่เป็นรูปแบบการจัดสวนที่เรียกว่า “จิเซนไคยู” ซึ่งพบบ่อยในการจัดสวนของไดเมียวในยุคเอโดะ โดยทั้งสวนโทคุกาวะนั้นเปรียบเหมือนธรรมชาติของญี่ปุ่น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงภาพสายน้ำใสสะอาดจากน้ำตกไหลลงช่องเขาและไหลไปสู่บ่อน้ำที่เปรียบเหมือนทะเล นอกจากการเดินเล่นในสวนแห่งนี้แล้ว ยังสามารถนั่งชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามไปพร้อมกับพักผ่อนหย่อนใจสบายๆ ที่คาเฟ่โซะซันโซที่ได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงและภัตตาคารอาหารฝรั่งเศสที่มองเห็นทะเลสาบริวเซนได้

徳川園

ส่วนหลักของสวน คือ ทะเลสาบริวเซน ที่มีปลาคาร์ปว่ายไปมาตามเกาะเล็กเกาะน้อยอย่างอ้อยอิ่ง โดยมีต้นสนคุโรมัตสึเป็นฉากหลัง ในฤดูใบไม้ร่วง ใบเมเปิ้ลแผ่กิ่งก้านเข้าหาหินก้อนใหญ่ แต่งแต้มสีสันให้ฤดูกาล และที่พลาดไม่ได้เลยคือน้ำตกริวมงซึ่งอยู่ติดกับทางเข้า ว่ากันว่าด้วยการจัดวางโดยดัดแปลงให้ทันทีที่ธารน้ำไหลลงจากก้อนหินที่วางซ้อนกัน น้ำที่ตกลงจากน้ำตกริวมงจะเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนทำให้หินจมอยู่ใต้น้ำ ทำให้บรรดาโชกุนและไดเมียวทั้งหลายในยุคนั้นเพลิดเพลินเป็นอย่างยิ่ง

วัดเคนจูจิ วัดที่ตั้งอยู่ในระดับสูงสุดของเมืองซึ่งมิตสึโทโมะ ผู้ปกครองแคว้นรุ่นที่สามสร้างขึ้น

建中寺

เพื่ออุทิศให้แก่โยชินาโอะ ผู้ก่อตั้งแคว้นที่ล่วงลับ มิตสึโทโมะ ผู้ปกครองแคว้นรุ่นที่สามผู้เป็นบุตรชายจึงสร้างวัดเคนจูจิขึ้นในปี 1650 ที่นี่เป็นสุสานของบรรดาผู้ปกครองแคว้นโอวาริในอดีตมาตลอดจนยุคเอโดะสิ้นสุดลง แต่ปัจจุบันเหลือเพียงแต่หลุมศพของมิตสึโทโมะเท่านั้นที่ยังหลงเหลืออยู่ที่นี่ อาคารวัดส่วนใหญ่ถูกเพลิงไหม้ระหว่างอัคคีภัยครั้งใหญ่ในปี 1785 แต่ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี 1787 โดยตระกูลโอวาริโทคุกาวะ โดยอาคารหลักทำขึ้นด้วยไม้ ทำให้ได้เห็นงานฝีมือที่เสาซึ่งแกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ เช่น รูปค้างคาวกับตัวเดินหมากรุกโชกิ และพวงองุ่นกับดอกอาโออิ เป็นต้น อย่าพลาดที่จะลองสัมผัสรสนิยมทางสถาปัตยกรรมอันยอดเยี่ยมของช่างไม้ที่นี่กันให้ได้ นอกจากนี้ยังจะได้เห็น “ประตูโซมง” และ “ประตูซันมง” ที่ยังคงสภาพเดิมเหมือนในสมัยที่สร้างวัดขึ้น

“วัดโคโชจิ” วัดที่ถูกเรียกขานว่าเป็นโอวาริโคยะ* ซึ่งเปี่ยมล้นด้วยศรัทธา

興正寺

วัดโคโจจิที่มิตสึโทโมะสร้างขึ้นในปี 1686 เป็นสถานที่สักการะบูชาของตระกูลโอวาริโทคุกาวะและปัจจุบันเป็นสถานที่แสวงบุญอันศักดิ์สิทธิ์ ในเขตวัดประกอบด้วยส่วนที่เป็นวัดนิชิยามะฟุมงอินซึ่งเป็นอาคารหลัก และวัดฮิคาชิยะมะเฮนโจอินซึ่งเป็นอาคารแบบศาสนาพุทธนิกายชินกอน และยังมีสถาปัตยกรรมล้ำค่ายังคงอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมากซึ่งแต่ละสถาปัตยกรรมก็มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์แตกต่างกันไป

วัดโคโชจิที่แสนร่มรื่นและมีประวัติศาสตร์อันยาวนานนี้เป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชมทุกองค์ประกอบในวัด โดยเฉพาะสถูปห้าชั้นที่ก่อสร้างขึ้นในปีบุงกะที่ 5 (ปี 1808) ซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติในฐานะที่เป็นสถูปห้าชั้นที่สร้างจากไม้หนึ่งเดียวที่ยังหลงหลงเหลืออยู่ นับว่าเป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดที่จะมาเยี่ยมชม นอกจากนี้ หากไปเดินเล่นในสวนสวยที่ได้รับการดูแลอย่างดีก็คงจะเพลิดเพลินเช่นเดียวกัน รวมถึง งานวัดที่จัดขึ้นในวันที่ 5,12,21 ของทุกเดือน ก็ดูจะคึกคักไปด้วยผู้คนมากมาย

*วัดที่คนในตระกูลโอวาริโทคุกาวะมาสวดมนต์ขอพร

ไปต่อกันที่ “อัตสึตะ อะริมัตสึ” กันไหม

有松

หากคุณชอบเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่อื่นที่ไม่ใช่สถานที่ยอดนิยมที่ใครต่อใครต่างก็ไปกัน ลองไปเดินเล่นริมแม่น้ำโฮริดูดีไหม แม่น้ำโฮริเป็นแม่น้ำที่ขุดลอกขึ้นเพื่อใช้ขนส่งไม้ไปที่ปราสาทนาโกย่า ริมแม่น้ำโฮรินี้มีสถานที่ที่น่าสนใจหลายที่ เช่น นาโกย่าโทโชะกุ ซึ่งเป็นที่เซ่นไหว้บูชาโชกุนอิเอะยะสุที่ถูกยกให้เป็นเทพเจ้า ศาลอัตสึตะจิงกุที่ซึ่งโชกุนอิเอะยะสุเคยมาขอพรให้รบชนะ และท่าเรือที่ไปยังเส้นทางชิจิริ โนะ วะตะชิ
ที่อะริมัตสึ เมืองพักค้างแรมระหว่างเดินทางที่สร้างขึ้นจากการสนับสนุนของบรรดาผู้ปกครองแคว้นในตระกูลโอวาริโทคุกาวะ มีชื่อเสียงในการมัดย้อมที่สวยงามแบบ “อะริมัตสึชิโบริ” และได้สืบทอดเทคนิคของช่างฝีมืออันเป็นเลิศมาต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้

  • 堀川
  • 名古屋東照宮
  • 熱田神宮